เคยซื้อ the multiple stick: orgasm (ที่ออสเตรเลีย $80 lol) แล้วไม่ประทับใจเพราะความวาวระยิบระยับเกิน คิดว่าไม่เหมาะกับการใช้ตอนกลางวัน เลยไม่สนใจผลิตภัณฑ์ของยี่ห้อนี้เท่าไหร่ แต่มีเพื่อนรุ่นน้องแนะนำว่า Blush ของ Nars น่าใช้มาก สีชัด ติดทนและได้ฟังกูรูความงามตามยูทูปต่างก็พากันยกย่อง Nars orgasm blush ว่าเป็น a must ต้องมีมาครอบครอง เป็นสีทาแก้มที่เข้ากับทุกสีผิว .... เริ่มเอนเอียง และแล้วก็เห็นกูรูหลายคนแนะนำ laguna bronzer เห็นแล้วอยากได้มากเพราะเป็นคนที่ชอบ bronzer ไม่ชอบหน้าขาววอกโดยเฉพาะหน้าหนาวหน้าซีดได้ใจ
แต่จะซื้อ Nars จาก Mecca Cosmetic ก็แพงเหลือเกิน จนมาเจอบน ebay ร้านของ sunnyday023 ค่ะ นี่เลย Duo orgasm blush & laguna bronzer ราคา ~ $75 มีทั้งสีทาแก้มยอดฮิตและสี bronzer ยอดฮิต อดใจไม่ไหวต้องถอยทันทีค่ะ
ชอบ Laguna bronzer มากกกกกก ทาแล้วสีเป็นธรรมชาติ ไม่ออกส้มจนเกินไป ติดใจจนสั่งขนาดจริงมาเพิ่ม (กำลังเดินทางมาอยู่ค่ะ ^^) ส่วน Orgasm blush สีสวยกว่า the multiple stick ไม่วาวเท่า ติดทนนาน แต่ก็ไม่ถึงกับชอบมากอย่างที่หลายๆ คน crazy about เจ้าสีทาแก้มอันนี้เท่าไหร่
สั่ง Nars blush สีอื่นทาง ebay แล้วและกำลังเดินทางมาจากอเมริกา ราคารวมค่าส่งแล้วยังถูกกว่าซื้อจาก Aus ebay ค่ะ ไว้ได้สินค้ามาลองเมื่อไหร่จะลองทาเทียบสีให้ดูนะคะ
I'm not a beauty expert but a real shophaholic. Love makeup and Louis Vuitton.
Friday, July 30, 2010
Thursday, July 29, 2010
MAC June hauls!
ปกติมี MAC เดิมอยู่หลายชิ้น ห่างหายจากการ shop cosmetic มานานโข จนมาติดดู YouTube แล้วเห็นกูรูความงามทั้งหลายแนะนำผลิตภัณฑ์กันจึงเกิดอาการ MAChaholic ขึ้นมาอีกระลอก เดือนมิถุนาที่ผ่านมาซื้อ MAC หลายครั้งแต่ละครั้งเกินหนึ่งชิ้นตลอด (เป็น impulsive buyer อ่ะค่ะ) มาดูกันค่ะว่าซื้ออะไรมั่ง
ครั้งแรก ซื้อแปรง MAC 239 & 217 ค่ะ ต่อมาครั้งที่สองซื้ออันอื่นๆ ที่เห็นในรูป สนใจรองพื้นของ MAC แต่มีมากมายเหลือเกิน MA เลยให้ sample มาลองค่ะ
อุตส่าห์ซื้อ MSF medium มาใช้ตามคำแนะนำของกูรูทั้งหลาย ปรากฎว่ามันออกโทนชมพูไปค่ะ ไม่ค่อยชอบ แต่ไม่แน่ สาวๆ ที่ไทยอาจจะชอบกันก็ได้ค่ะ ขาวอมชมพู แต่ตัวเองชอบแป้งสีเข้มกว่าสีผิวหน่อยนึงแล้วก็ชอบโทนสีเหลืองมากกว่าค่ะ
ตอนแรกอยากได้ Blush in pink swoon มาก แต่หมดสต๊อก MA ลองทาให้หลายสี ติดใจสีนี้มากค่ะ Hipness from to the beach collection ดูจากสีคิดว่าน่าจะออกส้มๆ แต่ทาจริงแล้วออกสีชมพูมากกว่าค่ะ สีสวยมาก ชมพูปนส้มนิดๆ
ติดใจ eye shadow & paint pot มาก เลยไปซื้อมาเพิ่มค่ะ
จากเดิมมีแค่ cork ซื้อเพิ่มแค่สองครั้งก็งอกเงยเป็น brown tone แบบนี้ค่ะ จากซ้ายบนไปขวาต่อล่างซ้ายนะคะ : Shroom, Era, Cork, Satin Taupe & Mystery
สีที่ใช้มากสุดคือ Satin Taupe ค่ะ บางทีเวลารีบๆก็แค่ป้ายสีเดียวให้ดูมีมิติแล้ววิ่งออกบ้านได้เลย ส่วน paint pot ซื้อสีแรกคือ painterly ตามคำแนะนำของกูรูความงามทั้งหลาย แต่คิดว่าเหมาะกับคนผิวออกชมพูมากกว่าค่ะ เลยหาซื้ออีกอันคือ Bare study เพราะ Soft Orchre หมดสต๊อก ใช้ paint pot แล้วชอบมากกกกกกกกก ช่วยให้สีติดทนทั้งวัน ไม่จับตัวระหว่างวัน บางทีรีบๆ ก็ใช้ paint pot ทาแล้วทาทับด้วย eye shadow อีกสี ก็ทำให้ตาดูสวยปิ๊งได้ทันทีค่ะ ชอบสี Bare study มาก เพราะออกโทนเหลืองมีประกายนิดๆ สวยดีค่ะ
ว่าจะแวะไปดู MAC counter เพื่อดูรองพื้นซักหน่อย ปรากฎว่ากลับบ้้านมาสามค่ะ :P
ลองใช้รองพื้นขนาดทดลองดูแล้วชอบ Studio Sculpt NC 20 มากค่ะ ความจริงอยากเลือกใช้ NC25-30 แต่่ MA ย้ำแล้วย้ำอีกว่าให้ใช้สี NC20 แล้วปัด bronzer เอา
ได้ paint pot "groundwork" มาอันเป็นสีน้ำตาลเข้มค่ะ แล้วก็กรี๊ดดดดดดดดดดด เจอแล้ว the famous "pink swoon" สีชมพูหวานใสได้ใจมากๆ
ตอนแรกว่าจะซื้อแปรงของ MAC เพิ่ม แต่ติดใจ Sigma makeup brushes เข้าให้ เลยตัดแปรง MAC ออกไปแล้วค่ะ ตอนนี้เหลือที่อยากได้ของ MAC ก็คือ
- Paint pot in soft orchre & rubenesque
- Blush in dollymix, well dress
- Select sheer pressed powder in NC20
ปกติเป็นคนบ้าอะไรแล้วก็บ้าเป็นพักๆ ค่ะ ช่วงนี้หมดความอยาก MAC ไปหลังจากติดใจแปรงของ Sigma & eye shadow ของ Coastal Scents คงจะห่างหายจากเคาท์เตอร์ MAC ไปซักระยะค่ะ ^^
ครั้งแรก ซื้อแปรง MAC 239 & 217 ค่ะ ต่อมาครั้งที่สองซื้ออันอื่นๆ ที่เห็นในรูป สนใจรองพื้นของ MAC แต่มีมากมายเหลือเกิน MA เลยให้ sample มาลองค่ะ
อุตส่าห์ซื้อ MSF medium มาใช้ตามคำแนะนำของกูรูทั้งหลาย ปรากฎว่ามันออกโทนชมพูไปค่ะ ไม่ค่อยชอบ แต่ไม่แน่ สาวๆ ที่ไทยอาจจะชอบกันก็ได้ค่ะ ขาวอมชมพู แต่ตัวเองชอบแป้งสีเข้มกว่าสีผิวหน่อยนึงแล้วก็ชอบโทนสีเหลืองมากกว่าค่ะ
ตอนแรกอยากได้ Blush in pink swoon มาก แต่หมดสต๊อก MA ลองทาให้หลายสี ติดใจสีนี้มากค่ะ Hipness from to the beach collection ดูจากสีคิดว่าน่าจะออกส้มๆ แต่ทาจริงแล้วออกสีชมพูมากกว่าค่ะ สีสวยมาก ชมพูปนส้มนิดๆ
ติดใจ eye shadow & paint pot มาก เลยไปซื้อมาเพิ่มค่ะ
จากเดิมมีแค่ cork ซื้อเพิ่มแค่สองครั้งก็งอกเงยเป็น brown tone แบบนี้ค่ะ จากซ้ายบนไปขวาต่อล่างซ้ายนะคะ : Shroom, Era, Cork, Satin Taupe & Mystery
สีที่ใช้มากสุดคือ Satin Taupe ค่ะ บางทีเวลารีบๆก็แค่ป้ายสีเดียวให้ดูมีมิติแล้ววิ่งออกบ้านได้เลย ส่วน paint pot ซื้อสีแรกคือ painterly ตามคำแนะนำของกูรูความงามทั้งหลาย แต่คิดว่าเหมาะกับคนผิวออกชมพูมากกว่าค่ะ เลยหาซื้ออีกอันคือ Bare study เพราะ Soft Orchre หมดสต๊อก ใช้ paint pot แล้วชอบมากกกกกกกกก ช่วยให้สีติดทนทั้งวัน ไม่จับตัวระหว่างวัน บางทีรีบๆ ก็ใช้ paint pot ทาแล้วทาทับด้วย eye shadow อีกสี ก็ทำให้ตาดูสวยปิ๊งได้ทันทีค่ะ ชอบสี Bare study มาก เพราะออกโทนเหลืองมีประกายนิดๆ สวยดีค่ะ
ว่าจะแวะไปดู MAC counter เพื่อดูรองพื้นซักหน่อย ปรากฎว่ากลับบ้้านมาสามค่ะ :P
ลองใช้รองพื้นขนาดทดลองดูแล้วชอบ Studio Sculpt NC 20 มากค่ะ ความจริงอยากเลือกใช้ NC25-30 แต่่ MA ย้ำแล้วย้ำอีกว่าให้ใช้สี NC20 แล้วปัด bronzer เอา
ได้ paint pot "groundwork" มาอันเป็นสีน้ำตาลเข้มค่ะ แล้วก็กรี๊ดดดดดดดดดดด เจอแล้ว the famous "pink swoon" สีชมพูหวานใสได้ใจมากๆ
ตอนแรกว่าจะซื้อแปรงของ MAC เพิ่ม แต่ติดใจ Sigma makeup brushes เข้าให้ เลยตัดแปรง MAC ออกไปแล้วค่ะ ตอนนี้เหลือที่อยากได้ของ MAC ก็คือ
- Paint pot in soft orchre & rubenesque
- Blush in dollymix, well dress
- Select sheer pressed powder in NC20
ปกติเป็นคนบ้าอะไรแล้วก็บ้าเป็นพักๆ ค่ะ ช่วงนี้หมดความอยาก MAC ไปหลังจากติดใจแปรงของ Sigma & eye shadow ของ Coastal Scents คงจะห่างหายจากเคาท์เตอร์ MAC ไปซักระยะค่ะ ^^
Wednesday, July 28, 2010
MAC & Sigma makeup travel brush kit: comparison.
วันนี้ขอเปรียบเทียบ MAC brush & Sigma makeup brush ขนาดเดินทางค่ะ
Sigma make up: Nice in Pink (travel kit) ราคา $49
MAC travel set ซื้อจาก duty free เป็นเซ็ตมากับกระเป๋าเครื่องสำอาง lip & eye palette อันเล็กๆ ค่ะ จำราคาไม่ได้แล้วแต่คิดว่ารวมทั้งหมดก็น่าจะราวๆ 2-3 พันบาทค่ะ
จะรีวิวเฉพาะ brush ที่เหมือนกันนะคะ 187, 168, 190 & 194 โดยแปรงทางซ้ายจะเป็นของ MAC ส่วนทางขวาจะเป็นของ Sigma makeup ค่ะ
เริ่มจาก MAC 187 se & SS 187 m ค่ะ Duo fibre brush
ขนาดใกล้เคียงกันมากค่ะ แต่โปรดสังเกตว่าส่วนขนสีขาวของ MAC ดูดำกว่าเยอะ ทั้งนี้เนื่องจากเวลาล้างแปรงนี้ทีไร ขนร่วง (shed) และสีตก (bleed) ทุกที ทั้งๆ ที่ล้างหลายครั้ง ในขณะที่ของ Sigma makeup ร่วงน้อยกว่าและแทบจะไม่ตกสีเลยค่ะ ความนุ่มของ Sigma นุ่มกว่าของ MAC ด้วยค่ะ
ความแน่นของขนแปรงเท่าเทียมกัน แต่ความนุ่มของ Sigma กินขาด เทียบแปรง 187 แล้วของ Sigma ดีกว่าค่ะ
แปรงถัดมา MAC 190 se & SS 190 m หรือ foundation brush ค่ะ ปกติไม่ใช้แปรงนี้เท่าไหร่เพราะใช้ Beuatyblender ทารองพื้นมากกว่าค่ะ
ขนาดของทั้งสองแปรง ของ Sigma จะเล็กและด้ามสั้นกว่านิดนึงค่ะ ความนุ่มเทียบแล้วของ MAC จะนุ่มและแน่นกว่านิดนึง แต่เวลาทารองพื้นหรือ concealer ผลลัพธ์เท่าเทียมกันค่ะ
เทียบกันแล้ว แปรง 190 ของ MAC ชนะ Sigma makeup แบบเฉียดฉิวค่ะ
มาดูแปรง MAC 168 se & SS 168 m (blush brush) กันค่ะ
ด้ามแปรงพอๆ กัน แต่ขนาดแปรงของ Sigma จะใหญ่กว่าของ MAC นิดนึง
ดูจากด้านบนจะเห็นว่าของ Sigma ขนแน่นกว่าเยอะ แต่ ... ของ Sigma นุ่มกว่าของ MAC มากกกกกกกกค่ะ แปรงอันนี้ของ MAC เป็นแปรงที่ตัวเองเกลียดมาก เพราะใช้ทีไรความรู้สึกเหมือนถูกบาดแก้มทุกที ดังนั้นแปรง Sigma ชนะเลิศขาดลอยค่ะ ยกให้เป็น The best of the Sigma travel kit ได้เลยค่ะ
แปรงสุดท้าย MAC 194 se & SS 194 m (concealer brush)
ของ MAC ยาวกว่านิดนึง แต่เบามาก จับแล้วไม่ค่อยถนัดมือค่ะเพราะเบาเกิน ควบคุมทิศทางความหนักเบาได้ลำบาก
ขนาดขนแปรงของ MAC เล็กและยาวกว่า อีกที ไม่ชอบแปรงนี้เพราะควบคุมการใช้ยาก ทั้งๆ ที่ผลลัพธ์ออกมา่ค่อนข้างปกปิดได้ดีพอๆ กับของ Sigma ค่ะ
สำหรับแปรงนี้ยกให้ Sigma เป็นผู้ชนะ ด้วยความที่จับถนัดมือกว่าให้ผลลัพธ์เท่าเทียมกัน
ส่วนแปรงที่เหลือของ Sigma:
SS 150 m เล็กกว่า SS 150 ขนาดปกติมาก แต่นุ่ม หนา เหมาะแก่การปัดแก้มมากกว่า all over face ค่ะ เป็นแปรงอีกอันที่ชอบ
SS 239 m Love this brush ค่ะ ใช้เกือบทุกวัน ทั้งขนาดปกติและขนาดเดินทาง ใช้ดี กดสีได้ดี ขนาดกำลังเหมาะ ว่าไป ใช้ดีพอๆ กับของ MAC 239 หรือจะว่าดีกว่าก็ได้ค่ะ เพราะหลังๆ ใช้แปรงนี้มากกว่าของ MAC เสียอีก
SS 224 m Love this brush too แบบว่าใช้ blend สีได้ดีมากๆ ดีพอๆ กับ MAC 224 และอาจจะดีกว่าเพราะขนาดเล็กกว่าของ MAC เหมาะกับเบ้าตาเอเชียมากกว่าของ MAC ค่ะ
SS 219 m pencil brush ยังไม่ค่อยมีโอกาสได้ใช้แปรงนี้เท่าไหร่นัก แต่ความนุ่มสุดยอดค่ะ
เคยเห็นกูรูใน YouTube บอกว่าแปรงของ Sigma ทั้งขนาดธรรมดาและเดินทาง เป็น hand made หมด ส่วนของ MAC ขนาดจริงเป็น hand made แต่ travel size เป็น machine made คิดว่าน่าจะจริงค่ะ เพราะคุณภาพแปรงของ MAC ขนาดเดินทาง แตกต่างจากแปรงขนาดจริงโดยสิ้นเชิง แปรงถูกๆ บางยี่ห้อดีกว่าของ MAC ขนาดเดินทางด้วยซ้ำ ดังนั้น ไม่แนะนำให้ซื้อแปรงของ MAC ขนาดเดินทางเลยนะคะ เปรียบเทียบกับ Sigma แล้ว ซื้อของ Sigma travel kit ดีกว่า เพราะคุณภาพดี ใช้งานได้ดีมาก พกพาสะดวก กระเป๋าใส่ก็น่าัรักน่าใช้ ได้แปรงเยอะกว่า สาระพัดประโยชน์กว่าของ MAC ค่ะ
ไม่ได้เข้าข้าง Sigma makeup นะคะ แต่ใช้ดีแล้วอยากบอกต่อจริงๆ ค่ะ ไว้ครั้งหน้าจะมาเปรียบเทียบ Sigma & MAC brushes ขนาดปกติกันนะคะ
Sigma make up: Nice in Pink (travel kit) ราคา $49
MAC travel set ซื้อจาก duty free เป็นเซ็ตมากับกระเป๋าเครื่องสำอาง lip & eye palette อันเล็กๆ ค่ะ จำราคาไม่ได้แล้วแต่คิดว่ารวมทั้งหมดก็น่าจะราวๆ 2-3 พันบาทค่ะ
จะรีวิวเฉพาะ brush ที่เหมือนกันนะคะ 187, 168, 190 & 194 โดยแปรงทางซ้ายจะเป็นของ MAC ส่วนทางขวาจะเป็นของ Sigma makeup ค่ะ
เริ่มจาก MAC 187 se & SS 187 m ค่ะ Duo fibre brush
ขนาดใกล้เคียงกันมากค่ะ แต่โปรดสังเกตว่าส่วนขนสีขาวของ MAC ดูดำกว่าเยอะ ทั้งนี้เนื่องจากเวลาล้างแปรงนี้ทีไร ขนร่วง (shed) และสีตก (bleed) ทุกที ทั้งๆ ที่ล้างหลายครั้ง ในขณะที่ของ Sigma makeup ร่วงน้อยกว่าและแทบจะไม่ตกสีเลยค่ะ ความนุ่มของ Sigma นุ่มกว่าของ MAC ด้วยค่ะ
ความแน่นของขนแปรงเท่าเทียมกัน แต่ความนุ่มของ Sigma กินขาด เทียบแปรง 187 แล้วของ Sigma ดีกว่าค่ะ
แปรงถัดมา MAC 190 se & SS 190 m หรือ foundation brush ค่ะ ปกติไม่ใช้แปรงนี้เท่าไหร่เพราะใช้ Beuatyblender ทารองพื้นมากกว่าค่ะ
ขนาดของทั้งสองแปรง ของ Sigma จะเล็กและด้ามสั้นกว่านิดนึงค่ะ ความนุ่มเทียบแล้วของ MAC จะนุ่มและแน่นกว่านิดนึง แต่เวลาทารองพื้นหรือ concealer ผลลัพธ์เท่าเทียมกันค่ะ
เทียบกันแล้ว แปรง 190 ของ MAC ชนะ Sigma makeup แบบเฉียดฉิวค่ะ
มาดูแปรง MAC 168 se & SS 168 m (blush brush) กันค่ะ
ด้ามแปรงพอๆ กัน แต่ขนาดแปรงของ Sigma จะใหญ่กว่าของ MAC นิดนึง
ดูจากด้านบนจะเห็นว่าของ Sigma ขนแน่นกว่าเยอะ แต่ ... ของ Sigma นุ่มกว่าของ MAC มากกกกกกกกค่ะ แปรงอันนี้ของ MAC เป็นแปรงที่ตัวเองเกลียดมาก เพราะใช้ทีไรความรู้สึกเหมือนถูกบาดแก้มทุกที ดังนั้นแปรง Sigma ชนะเลิศขาดลอยค่ะ ยกให้เป็น The best of the Sigma travel kit ได้เลยค่ะ
แปรงสุดท้าย MAC 194 se & SS 194 m (concealer brush)
ของ MAC ยาวกว่านิดนึง แต่เบามาก จับแล้วไม่ค่อยถนัดมือค่ะเพราะเบาเกิน ควบคุมทิศทางความหนักเบาได้ลำบาก
ขนาดขนแปรงของ MAC เล็กและยาวกว่า อีกที ไม่ชอบแปรงนี้เพราะควบคุมการใช้ยาก ทั้งๆ ที่ผลลัพธ์ออกมา่ค่อนข้างปกปิดได้ดีพอๆ กับของ Sigma ค่ะ
สำหรับแปรงนี้ยกให้ Sigma เป็นผู้ชนะ ด้วยความที่จับถนัดมือกว่าให้ผลลัพธ์เท่าเทียมกัน
ส่วนแปรงที่เหลือของ Sigma:
SS 150 m เล็กกว่า SS 150 ขนาดปกติมาก แต่นุ่ม หนา เหมาะแก่การปัดแก้มมากกว่า all over face ค่ะ เป็นแปรงอีกอันที่ชอบ
SS 239 m Love this brush ค่ะ ใช้เกือบทุกวัน ทั้งขนาดปกติและขนาดเดินทาง ใช้ดี กดสีได้ดี ขนาดกำลังเหมาะ ว่าไป ใช้ดีพอๆ กับของ MAC 239 หรือจะว่าดีกว่าก็ได้ค่ะ เพราะหลังๆ ใช้แปรงนี้มากกว่าของ MAC เสียอีก
SS 224 m Love this brush too แบบว่าใช้ blend สีได้ดีมากๆ ดีพอๆ กับ MAC 224 และอาจจะดีกว่าเพราะขนาดเล็กกว่าของ MAC เหมาะกับเบ้าตาเอเชียมากกว่าของ MAC ค่ะ
SS 219 m pencil brush ยังไม่ค่อยมีโอกาสได้ใช้แปรงนี้เท่าไหร่นัก แต่ความนุ่มสุดยอดค่ะ
เคยเห็นกูรูใน YouTube บอกว่าแปรงของ Sigma ทั้งขนาดธรรมดาและเดินทาง เป็น hand made หมด ส่วนของ MAC ขนาดจริงเป็น hand made แต่ travel size เป็น machine made คิดว่าน่าจะจริงค่ะ เพราะคุณภาพแปรงของ MAC ขนาดเดินทาง แตกต่างจากแปรงขนาดจริงโดยสิ้นเชิง แปรงถูกๆ บางยี่ห้อดีกว่าของ MAC ขนาดเดินทางด้วยซ้ำ ดังนั้น ไม่แนะนำให้ซื้อแปรงของ MAC ขนาดเดินทางเลยนะคะ เปรียบเทียบกับ Sigma แล้ว ซื้อของ Sigma travel kit ดีกว่า เพราะคุณภาพดี ใช้งานได้ดีมาก พกพาสะดวก กระเป๋าใส่ก็น่าัรักน่าใช้ ได้แปรงเยอะกว่า สาระพัดประโยชน์กว่าของ MAC ค่ะ
ไม่ได้เข้าข้าง Sigma makeup นะคะ แต่ใช้ดีแล้วอยากบอกต่อจริงๆ ค่ะ ไว้ครั้งหน้าจะมาเปรียบเทียบ Sigma & MAC brushes ขนาดปกติกันนะคะ
Monday, July 26, 2010
Sigma makeup brushes (Professional complete kit)
หลังจากติดใจ Sigma brushes : nice in pink (travel kit) ก็สั่งของจาก sigma makeup อีกรอบ คราวนี้สั่ง Professional brushes complete kit ชุด 12 แปรงค่ะ $69 ไม่รวมซองหรือ $89 รวมซองเก็บ ด้วยความที่ครั้งที่แล้วซื้อซองเก็บแปรงมาแล้ว ก็เลยไม่สั่งซื้อซองครั้งนี้ค่ะ ราคานี้พอๆ กับแปรงของ MAC 1-2 อันเลย คิดว่ายังไงก็คงคุ้มค่า
นอกจากจะซื้อครบเซ็ตแล้ว ยังซื้อ face & eye kit มาอีกเซ็ต ซึ่งมีแปรง 6 ชิ้นค่ะ เทียบตามแบบระบบเดิมของการเรียกแปรงของ Sigma ก็จะมี SS150, 187, 219, 224, 239, 182 (kabuki) การเรียกแปรงตามระบบเดิมนั้นจะขึ้นต้นด้วย SS ตามด้วยตัวเลขเดียวกับ MAC ค่ะ และแปรงก็จะคล้ายๆ (หรือเหมือนกัน) กับของ MAC (MAC inspired) แต่ Sigma ได้เปลี่ยนระบบการเรียกแปรงเป็นแบบใหม่ค่ะ ขึ้นต้นด้วยตัว E, F & L ส่วนตัวแล้วชอบระบบเรียกแปรงแบบเดิมมากกว่าเพราะจำง่ายดี เทียบกับของ MAC ได้ง่ายค่ะ
เหมือนเคยค่ะ ส่งมาในห่อน่ารัก มีการ์ด congratulations วิธีดูแลรักษาแปรง และแผ่นพับอธิบายแปรงแต่ละอัน แสดงให้เห็นถึงความเอาใจใส่ของ Sigma makeup มีของแถมเป็นแปรง SS217 ให้เหมือนเดิม (ชอบแปรงนี้มากค่ะ นุ่มน่าใช้ เสียดายเป็นขนาดเดินทาง ด้ามสั้น)
พอเอาแปรงทั้งหมดมาเรียงในซองก็เป็นแบบนี้ค่ะ สวยเริ่ดดดดดดด พกพาสะดวก
แปรงที่มีทั้งหมด เรียงตามระบบเบอร์แบบเก่าเทียบกับของ MAC ดังนี้จากซ้ายไปขวาค่ะ SS190, 187, 150, 168, 224, 275, 252, 219, 194, 239, 266 & 209
ไม่หนำใจซื้อแยกเพิ่มอีกสองอันคือ SS188 & SS182 (kabuki) ด้วยค่ะ
จากที่ได้ลองใช้ดูมาเกือบอาทิตย์ พบว่าแปรงส่วนใหญ่ของ Sigma makeup คุณภาพดีมาก บางอันทัดเทียมกับของ MAC เลย บางอันถึงขนาดใช้ดีกว่าของ MAC อีก ตอนนี้กำลังชั่งใจอยู่ว่า อยากถอย premium kit ชุดใหญ่มาเพิ่มอีกเพราะติดใจในคุณภาพการใช้งานของแปรงยี่ห้อนี้จริงๆ แล้วจะอัพเดทเปรียบเทียบ side by side ระหว่าง MAC & Sigma brushes ให้ดูกันนะคะ ว่าดีไม่ดีต่างกันเหมือนกันอย่างไร แต่สรุปให้ฟังนิดนึงว่า แปรงส่วนใหญ่ของ Sigma makeup เป็น affordable MAC quality brushes อย่างที่กูรูความงามแนะนำกันจริงๆ highly recommended อีกอย่างค่ะ ^^
Note: Sigma Makeup กำลังปรับปรุงเวปค่ะ เวปใหม่คือ New Sigma Makeup website ราคาของหลาย set ราคาแพงขึ้นค่ะ อย่างเช่น Professional complete brush kit is $79 on the new website but $69 on the old one. รวม brush roll ด้วยเป็น $99 ดังนั้นถ้าใครอยากได้แปรงของ Sigma makeup ต้องรีบกันหน่อยนะคะ
นอกจากจะซื้อครบเซ็ตแล้ว ยังซื้อ face & eye kit มาอีกเซ็ต ซึ่งมีแปรง 6 ชิ้นค่ะ เทียบตามแบบระบบเดิมของการเรียกแปรงของ Sigma ก็จะมี SS150, 187, 219, 224, 239, 182 (kabuki) การเรียกแปรงตามระบบเดิมนั้นจะขึ้นต้นด้วย SS ตามด้วยตัวเลขเดียวกับ MAC ค่ะ และแปรงก็จะคล้ายๆ (หรือเหมือนกัน) กับของ MAC (MAC inspired) แต่ Sigma ได้เปลี่ยนระบบการเรียกแปรงเป็นแบบใหม่ค่ะ ขึ้นต้นด้วยตัว E, F & L ส่วนตัวแล้วชอบระบบเรียกแปรงแบบเดิมมากกว่าเพราะจำง่ายดี เทียบกับของ MAC ได้ง่ายค่ะ
เหมือนเคยค่ะ ส่งมาในห่อน่ารัก มีการ์ด congratulations วิธีดูแลรักษาแปรง และแผ่นพับอธิบายแปรงแต่ละอัน แสดงให้เห็นถึงความเอาใจใส่ของ Sigma makeup มีของแถมเป็นแปรง SS217 ให้เหมือนเดิม (ชอบแปรงนี้มากค่ะ นุ่มน่าใช้ เสียดายเป็นขนาดเดินทาง ด้ามสั้น)
พอเอาแปรงทั้งหมดมาเรียงในซองก็เป็นแบบนี้ค่ะ สวยเริ่ดดดดดดด พกพาสะดวก
แปรงที่มีทั้งหมด เรียงตามระบบเบอร์แบบเก่าเทียบกับของ MAC ดังนี้จากซ้ายไปขวาค่ะ SS190, 187, 150, 168, 224, 275, 252, 219, 194, 239, 266 & 209
ไม่หนำใจซื้อแยกเพิ่มอีกสองอันคือ SS188 & SS182 (kabuki) ด้วยค่ะ
จากที่ได้ลองใช้ดูมาเกือบอาทิตย์ พบว่าแปรงส่วนใหญ่ของ Sigma makeup คุณภาพดีมาก บางอันทัดเทียมกับของ MAC เลย บางอันถึงขนาดใช้ดีกว่าของ MAC อีก ตอนนี้กำลังชั่งใจอยู่ว่า อยากถอย premium kit ชุดใหญ่มาเพิ่มอีกเพราะติดใจในคุณภาพการใช้งานของแปรงยี่ห้อนี้จริงๆ แล้วจะอัพเดทเปรียบเทียบ side by side ระหว่าง MAC & Sigma brushes ให้ดูกันนะคะ ว่าดีไม่ดีต่างกันเหมือนกันอย่างไร แต่สรุปให้ฟังนิดนึงว่า แปรงส่วนใหญ่ของ Sigma makeup เป็น affordable MAC quality brushes อย่างที่กูรูความงามแนะนำกันจริงๆ highly recommended อีกอย่างค่ะ ^^
Note: Sigma Makeup กำลังปรับปรุงเวปค่ะ เวปใหม่คือ New Sigma Makeup website ราคาของหลาย set ราคาแพงขึ้นค่ะ อย่างเช่น Professional complete brush kit is $79 on the new website but $69 on the old one. รวม brush roll ด้วยเป็น $99 ดังนั้นถ้าใครอยากได้แปรงของ Sigma makeup ต้องรีบกันหน่อยนะคะ
Saturday, July 24, 2010
Coastal Scents hauls!
YouTube กูรูต่างก็พูดถึง Coastal Scents (CS) กัน โดยเฉพาะ 88 palettes นั่งดูไปนั่งดูมา เกิดอาการอยากได้ตะหงิดๆ เลยต้องไปที่เวปไซด์ของ coastal scents ผลิตภัณฑ์ราคาถือว่าถูกมาก แต่ปัญหาคือค่าส่งจากอเมริกามาออสเตรเลียค่อนข้างแพง ~ $20-30 ต่อครั้ง ก็เลยคิดว่าไหนๆ ก็จะสั่งแล้วสั่งมาลองหลายๆ อย่างดีกว่า
มีข่าวด้านลบเกี่ยวกับ CS ว่า ส่งของฟรีให้ YouTube กูรูความงามทั้งหลายเพื่อให้ได้รับคำชมเยอะๆ เป็นการตลาดอย่างหนึ่ง เป็นบริษัทที่ customer service แย่ อีกข่าวก็ประมาณว่าผลิตภัณฑ์ปนเปื้อนสารพิษเพราะมี silica ผสม อาจเป็นสารก่อมะเร็ง บ้างก็ว่าของ made in China คุณภาพแย่ มีสารพิษปนเปื้อน ในความเป็นจริง เครื่องสำอางค์หลายๆ อย่างมี silica เป็นส่วนประกอบ ไม่ว่าจะ made in France or made in China ขออนุญาตนำลิ๊งค์นี้มาให้อ่านกันเกี่ยวกับ CS controversy อีกอย่างขอชี้แจงหน่อยว่า หากจะเลี่ยงของ made in China ในปัจจุบันคงทำได้ยาก อีกอย่างของจากจีนก็พัฒนาขึ้นเยอะ ความคิดเห็นส่วนตัว ของราคาถูกขนาดนี้ จะคาดหวังอะไรกันมาก you get what you pay ด้วยความอยากก็เลยสั่งของออนไลน์ค่ะ
First CS haul:
ได้ของเร็วมากใช้เวลาน้อยกว่า 1 อาทิตย์ค่ะ
เปิดออกมา ว๊าว ชอบสีมาก ปกติชอบแต่งหน้าโทนน้ำตาลอยู่แล้ว เลยสั่ง warm palette มาใช้ ราคา $24.95 ค่ะ แต่ข้อเสียอย่างนึงของ palette นี้คือ สีบางสีหลุดออกจากถาด ที่ได้มาก็หลุดออกมาสีหนึ่งค่ะ แต่ก็ไม่ได้ทำให้เสียหายอะไรมากมาย ติดกาวกลับคืนได้ง่ายๆ ค่ะ จากที่ลองใช้ดู สีติดทนดีมากแต่ต้องใช้กับ eye primer/base นะคะ สีสวย โดยรวมแล้ว สำหรับราคานี้ซึ่งถูกกว่า MAC eye shadow 1 สี ถือว่าคุ้มค่าราคาจริงๆ ค่ะ you get more than what you pay สำหรับถาด 88 warm palette ค่ะ
จากการติด YouTube งอมแงม ทำให้เกิดกิเลสอยากได้แปรงของ CS ด้วยค่ะ ด้วยความอยากประหยัดค่าส่งเลยสั่งกระหน่ำ ราคาก็ถูกมาก ราคา ~$2-12 เท่านั้นเองค่ะ คิดไว้ว่า ถ้าไม่ดีก็ทิ้ง ถ้าดีก็ถือว่าคุ้ม วันหลังจะมารีวิวให้ดูกันนะคะ แต่สรุป บางอันดี บางอันไม่ดี โดยรวมแล้วไม่แนะนำให้ซื้อแปรงของยี่ห้อนี้ค่ะ
เนื่องจากประทับใจเจ้า 88 warm palette มาก และจากการดู YouTube (อีกแล้ว lol) เลยทำให้อยากได้ palette อื่นมาลองด้วยค่ะ ปกติ CS จะมี Friday sale ก็เลยกะว่าถึงวันศุกร์จะซื้อเพิ่ม พอดีช่วงที่ซื้อผลิตภัณฑ์ mineral powder products ลด 50% off ค่ะ เลยกระหน่ำซื้อ (อีกแล้ว เฮ้อ) มาลอง คิดปลอบใจตัวเองอีกว่า ถ้าไม่ดีก็ทิ้ง ถ้าดีก็คุ้ม แหะๆ ตอนแรกว่าจะซื้อ palette มาให้ครบทั้ง 4 แบบ แต่ส่วนตัวแล้วไม่ชอบสีด้านเท่าไหร่ เลยไม่ได้ซื้อ original 88 palette (matt) ค่ะ มาดูกันต่อดีกว่า
Second CS Haul:
เริ่มด้วย Gel liner หลายสี (ถูกมากกกกกก) และ mineral powder products จากที่ลองใช้ดู บางอันดี บางอันไม่ดีเหมือนเดิมค่ะ ปัญหาอยู่ที่สีมากกว่า เพราะเป็นของสั่งออนไลน์ไม่เห็นสีจริงของผลิตภัณฑ์ (สีบนหน้าจอเพี้ยนจากสีจริง) เลือกสีจากรีวิวของคนอื่นและเสี่ยงดวงมากกว่า
สั่งมาสอง Ultra shimmer palette & Metal mania palette เป็น combo ราคาแค่ $36.95 เองค่ะ ชอบมากกกกกก สีสวย ติดทน แต่เสียดายที่ metal mania palette สีหลุดจากถาดหลายอันเลอะไปหมดเลย แต่กะว่าพอติดกาวเ้ข้าไปก็โอเค เลือกสีถาดที่มีสีเยอะๆ แบบนี้ ข้อดีอย่างก็คือ เหมาะแก่การทดลองค่ะ ถ้าไม่ชอบก็ไม่ใช้สีนั้น ถ้าซื้อของแพงๆ อย่าง mac เลย ใช้ครั้งเดียวแล้วไม่ใช้อีกก็เสียดาย แต่ของ CS ใช้จริงๆ ไม่กี่สีในถาดก็คุ้มค่าราคาแล้วค่ะ
จากที่สั่งมาสองครั้ง คิดว่า CS 88 palette เป็นผลิตภัณฑ์ที่น่าใช้ ราคาถูก สีสวย ติดทนนาน อาจจะดีกว่าซื้อพวก drugstore products อย่าง Maybelline, Revlon, Loreal, Rimmer ฯลฯ หลายๆ ครั้งรวมกันเสียอีกค่ะ เพราะสีเยอะมาก และปกติ คุณสาวๆ ก็คงใช้สีใน eye shadow palette ไม่ถึงก้นถาดสีก็ซื้อใหม่มาลองแล้ว CS เป็นทางเลือกที่ดีค่ะ สีเยอะ ได้ลองใช้จนพบสีที่ถูกใจ ถึงจุดนั้นค่อยหาสีที่ใกล้เคียงของแบรนด์ดีๆ อย่าง MAC มาใ้ช้ก็ได้ค่ะ ส่วนผลิตภัณฑ์อื่นจะว่ารีวิวคราวหลัง แต่ไม่ประทับใจเท่า palette เท่าไหร่ ส่วนแปรงไม่แนะนำให้ซื้อค่ะ เพราะใช้ได้ดีจริงๆ ไม่กี่อันค่ะ
มีข่าวด้านลบเกี่ยวกับ CS ว่า ส่งของฟรีให้ YouTube กูรูความงามทั้งหลายเพื่อให้ได้รับคำชมเยอะๆ เป็นการตลาดอย่างหนึ่ง เป็นบริษัทที่ customer service แย่ อีกข่าวก็ประมาณว่าผลิตภัณฑ์ปนเปื้อนสารพิษเพราะมี silica ผสม อาจเป็นสารก่อมะเร็ง บ้างก็ว่าของ made in China คุณภาพแย่ มีสารพิษปนเปื้อน ในความเป็นจริง เครื่องสำอางค์หลายๆ อย่างมี silica เป็นส่วนประกอบ ไม่ว่าจะ made in France or made in China ขออนุญาตนำลิ๊งค์นี้มาให้อ่านกันเกี่ยวกับ CS controversy อีกอย่างขอชี้แจงหน่อยว่า หากจะเลี่ยงของ made in China ในปัจจุบันคงทำได้ยาก อีกอย่างของจากจีนก็พัฒนาขึ้นเยอะ ความคิดเห็นส่วนตัว ของราคาถูกขนาดนี้ จะคาดหวังอะไรกันมาก you get what you pay ด้วยความอยากก็เลยสั่งของออนไลน์ค่ะ
First CS haul:
ได้ของเร็วมากใช้เวลาน้อยกว่า 1 อาทิตย์ค่ะ
เปิดออกมา ว๊าว ชอบสีมาก ปกติชอบแต่งหน้าโทนน้ำตาลอยู่แล้ว เลยสั่ง warm palette มาใช้ ราคา $24.95 ค่ะ แต่ข้อเสียอย่างนึงของ palette นี้คือ สีบางสีหลุดออกจากถาด ที่ได้มาก็หลุดออกมาสีหนึ่งค่ะ แต่ก็ไม่ได้ทำให้เสียหายอะไรมากมาย ติดกาวกลับคืนได้ง่ายๆ ค่ะ จากที่ลองใช้ดู สีติดทนดีมากแต่ต้องใช้กับ eye primer/base นะคะ สีสวย โดยรวมแล้ว สำหรับราคานี้ซึ่งถูกกว่า MAC eye shadow 1 สี ถือว่าคุ้มค่าราคาจริงๆ ค่ะ you get more than what you pay สำหรับถาด 88 warm palette ค่ะ
จากการติด YouTube งอมแงม ทำให้เกิดกิเลสอยากได้แปรงของ CS ด้วยค่ะ ด้วยความอยากประหยัดค่าส่งเลยสั่งกระหน่ำ ราคาก็ถูกมาก ราคา ~$2-12 เท่านั้นเองค่ะ คิดไว้ว่า ถ้าไม่ดีก็ทิ้ง ถ้าดีก็ถือว่าคุ้ม วันหลังจะมารีวิวให้ดูกันนะคะ แต่สรุป บางอันดี บางอันไม่ดี โดยรวมแล้วไม่แนะนำให้ซื้อแปรงของยี่ห้อนี้ค่ะ
เนื่องจากประทับใจเจ้า 88 warm palette มาก และจากการดู YouTube (อีกแล้ว lol) เลยทำให้อยากได้ palette อื่นมาลองด้วยค่ะ ปกติ CS จะมี Friday sale ก็เลยกะว่าถึงวันศุกร์จะซื้อเพิ่ม พอดีช่วงที่ซื้อผลิตภัณฑ์ mineral powder products ลด 50% off ค่ะ เลยกระหน่ำซื้อ (อีกแล้ว เฮ้อ) มาลอง คิดปลอบใจตัวเองอีกว่า ถ้าไม่ดีก็ทิ้ง ถ้าดีก็คุ้ม แหะๆ ตอนแรกว่าจะซื้อ palette มาให้ครบทั้ง 4 แบบ แต่ส่วนตัวแล้วไม่ชอบสีด้านเท่าไหร่ เลยไม่ได้ซื้อ original 88 palette (matt) ค่ะ มาดูกันต่อดีกว่า
Second CS Haul:
เริ่มด้วย Gel liner หลายสี (ถูกมากกกกกก) และ mineral powder products จากที่ลองใช้ดู บางอันดี บางอันไม่ดีเหมือนเดิมค่ะ ปัญหาอยู่ที่สีมากกว่า เพราะเป็นของสั่งออนไลน์ไม่เห็นสีจริงของผลิตภัณฑ์ (สีบนหน้าจอเพี้ยนจากสีจริง) เลือกสีจากรีวิวของคนอื่นและเสี่ยงดวงมากกว่า
สั่งมาสอง Ultra shimmer palette & Metal mania palette เป็น combo ราคาแค่ $36.95 เองค่ะ ชอบมากกกกกก สีสวย ติดทน แต่เสียดายที่ metal mania palette สีหลุดจากถาดหลายอันเลอะไปหมดเลย แต่กะว่าพอติดกาวเ้ข้าไปก็โอเค เลือกสีถาดที่มีสีเยอะๆ แบบนี้ ข้อดีอย่างก็คือ เหมาะแก่การทดลองค่ะ ถ้าไม่ชอบก็ไม่ใช้สีนั้น ถ้าซื้อของแพงๆ อย่าง mac เลย ใช้ครั้งเดียวแล้วไม่ใช้อีกก็เสียดาย แต่ของ CS ใช้จริงๆ ไม่กี่สีในถาดก็คุ้มค่าราคาแล้วค่ะ
จากที่สั่งมาสองครั้ง คิดว่า CS 88 palette เป็นผลิตภัณฑ์ที่น่าใช้ ราคาถูก สีสวย ติดทนนาน อาจจะดีกว่าซื้อพวก drugstore products อย่าง Maybelline, Revlon, Loreal, Rimmer ฯลฯ หลายๆ ครั้งรวมกันเสียอีกค่ะ เพราะสีเยอะมาก และปกติ คุณสาวๆ ก็คงใช้สีใน eye shadow palette ไม่ถึงก้นถาดสีก็ซื้อใหม่มาลองแล้ว CS เป็นทางเลือกที่ดีค่ะ สีเยอะ ได้ลองใช้จนพบสีที่ถูกใจ ถึงจุดนั้นค่อยหาสีที่ใกล้เคียงของแบรนด์ดีๆ อย่าง MAC มาใ้ช้ก็ได้ค่ะ ส่วนผลิตภัณฑ์อื่นจะว่ารีวิวคราวหลัง แต่ไม่ประทับใจเท่า palette เท่าไหร่ ส่วนแปรงไม่แนะนำให้ซื้อค่ะ เพราะใช้ได้ดีจริงๆ ไม่กี่อันค่ะ
My MAC brush collection & my "must have" MAC brushes
อย่างที่เคยบอกว่าเป็นคนบ้าแปรงแต่งหน้ามากค่ะ ใครว่าอะไรดีต้องหามาลองใช้ ซื้อมาเก็บไว้ ทั้งๆ ที่จริงๆ ใช้อยู่ไม่กี่อัน --" แต่ชอบมากโดยเฉพาะแปรงของ MAC ที่ใครว่าดีนักดีหนา สะสมไปมาก็มีอยู่สิบกว่าแปรง (ไม่รวม travel set) แปรงของ MAC เป็นที่รู้จักกันดีว่าคุณภาพดี นุ่ม ทนทาน ใช้ได้นานเป็นสิบๆ ปี ยิ่งใช้ยิ่งล้างยิ่งนุ่ม แพงแต่คุ้มค่าราคามากค่ะ highly recommended!
แปรงขนาดมาตรฐานที่มีอยู่ทั้งหมด 11 อัน มีดังนี้ค่ะ
จากซ้าย MAC 182 (kabuki), 150 (face), 129 (blush), 116 (blush), 187 (duo fibre brush), 224 (blending), 217 (shadow/blending), 239 (shadow), 219 (pencil brush), 208 (eye liner) & 316 (lip brush)
ถ้าจะให้เลือกและแนะนำว่าแปรงอันไหนใช้ดีและเป็น must have โดยเฉพาะถ้าคุณๆ กำลังจะเริ่มซื้อแปรงของ MAC ก็ขอแนะนำตามนี้เลยค่ะ
Face brushes : จากบนลงล่างนะคะ
182 kabuki brush - ทาแป้งใช้ได้ทั้งแป้ง 2 way, แป้งฝุ่น แป้งอัดแข็ง pressed powder หรือ MSF (mineralized skin finish) วิธีใช้คือ จุ่มหรือวนในแป้ง แล้วแปะๆ กลิ้งๆ วนๆ บนหน้า ผลลัพธ์คือหน้าเรียบเนียน ปกปิดดีค่ะ จากประสบการณ์ส่วนตัว แปรงนี้ของ MAC เป็นอะไรที่ unique มากค่ะ ขนแปรง หนา แน่น นุ่ม หาเลียนแบบได้ยากจริงๆ
150 face brush - เป็นแปรงสำหรับปัดแป้งค่ะ ส่วนตัวแล้วแปรงนี้เป็นแปรงสาระพัดประโยชน์ ถ้าให้เลือกได้แค่แปรงเดียวสำหรับหน้าจะเลือกแปรงนี้ค่ะ เพราะปกติ เวลารีบๆ จะใช้แปรงนี้ ปัดแป้งให้ทั่วหน้า ปัด bronzer แล้วตามด้วย blush เป็นอันเสร็จสรรพ วิ่งออกบ้านได้ทันที
187 Duo fibre brush - แรกเริ่มเดิมทีซื้อมาใช้เป็นแปรงสำหรับทารองพื้่นค่ะ จะให้ผลลัพธ์แบบ air brush แต่ตั้งแต่ค้นพบเจ้า beautyblender ก็เลิกใช้แปรงนี้รองพื้นไปเลยค่ะ ตอนหลังใช้ทา blush ที่สีเข้มๆ อย่าง Nars หรือปัดแป้งเบาๆ ให้ทั่วหน้า เป็นอีกแปรงของ Mac ที่หาเลียนแบบยากค่ะ มีความนุ่มและแข็งที่พอดิบพอดี
Eye brushes : จากซ้ายไปขวา
217 blending/eye shadow (es) brush - เหมาะสำหรับ cream shadow หรือ eye primer/base รวมไปถึง es ธรรมดาด้วยค่ะ สาระพัดประโยชน์เพราะนอกจากทาสีตาแล้ว ยังสามารถใช้ blend เกลี่ยสีให้เนียนเข้ากันได้อีก สาวก MAC หลายๆ คนถือว่าเป็นแปรงทาตาที่ต้องมีของ MAC เลยทีเดียวค่ะ
239 es brush - ใช้ทา es ค่ะ สามารถแต้มสีให้ติดทนทาน สีเด่นชัด เกลี่ยง่าย ความหนานุ่มกำลังพอเหมาะในการทาสีเปลือกตัว รวมถึงการทาเบ้าตาโดยเฉพาะหางตาได้ดีอีกด้วยค่ะ
224 blending brush - สำหรับเกลี่ยสีให้เข้ากัน หลายๆ คนไม่ชอบแปรงนี้เพราะติว่าใหญ่ไป แต่สำหรับโอโม่แล้ว ชอบแปรงนี้มากค่ะ บางทีใช้แปรงนี้จุ่มสีน้ำตาลแล้วแค่วนๆ ตรงหางตาเป็นรูปวงกลมก็ทำให้เบ้าตาดูลึก มีมิติได้ แล้วใช้สีที่เหลือติดแปรง เกลี่ยจากหัวคิ้วลงสองข้างของจมูก เป็น shading ให้จมูกดูโด่งขึ้นได้ในทันตาค่ะ อีกอย่างที่ใช้ประจำคือ หลังทาสีตาเสร็จแล้ว ก็ใช้แปรงนี้เปล่าๆ ไม่ต้องจุ่มสีอะไร เกลี่ยสีให้เข้ากันค่ะ
6 แปรงนี้ที่ผ่านมาถือว่าเป็นแปรงแนะนำสำหรับคุณๆ ที่อยากจะลองใช้ MAC brushes หรือหากมีอยู่แล้วอยากเพิ่มเติมเข้าใน collection ค่ะ
ส่วนอีก 5 แปรงที่มี แต่ไม่ถือว่าเป็นแปรงที่ต้องมี แต่ถ้าอยากได้ก็น่าใช้ค่ะ มาดูกันว่ามีแปรงอะไรบ้าง จากซ้ายไปขวานะคะ 129 (blush brush), 116 (small blush brush), 208 (eye liner), 316 (lip brush) & 219 (pencil brush)
มาเริ่มที่สองแปรงแรกก่อนนะคะ 129 & 116 (ซ้ายและขวา)
ทั้งสองแปรงเป็นแปรงปัดแก้มหรือใช้ในการ contour ได้ดีค่ะ ส่วนตัวแล้วคิดว่าเลือกอันใดอันหนึ่งก็พอ แล้วแต่ขนาดแก้มของแต่ละคนค่ะ
อีกสามแปรงที่เหลือจากซ้ายไปขวา 208, 316 & 219
208 - eye liner brush ถ้าชอบเขียนของตา แปรงนี้ใช้ง่ายค่ะ ชินมือกับการใช้แปรงหัวตัดเฉียงนี้มากกว่าตัวตัดแบนค่ะ อันนี้ก็แล้วแต่ความถนัดส่วนบุคคล ที่ออสเตรเลียไม่ได้ฮิตการเขียนขอบตาเหมือนที่เมืองไทยนัก ก็เลยไม่ค่อยได้ใช้บ่อยเท่าไหร่ค่ะ
316 - lip brush แยกส่วนเก็บปิดฝาเป็นขนาดพกพาได้สะดวกค่ะ แต่ปกติก็มักจะเร่งรีบจนไม่มีเวลาทาปากด้วยพู่กันนี้เท่าไหร่ ปกติก็แต้มๆ ลิปสติกลงบนริมฝีปากแล้วใช้นิ้วเกลี่ยๆ มากกว่าค่ะ ^^
219 - pencil brush แปรงนี้ซื้อมาล่าสุด แต่คิดว่าไม่ได้ใช้เท่าไหร่ค่ะ กูรูความงามตามยูทูปแนะนำรวมไปถึง Make up artist ของ MAC เอง แปรงนี้เหมาะแก่การเกลี่ยสีขอบตาให้ดู smokey ฟุ้งๆ บางคนแนะนำให้ใช้ทาบริเวณเบ้าตาให้มีมิติเข้มและเด่นชัดขึ้น หรือใช้เกลี่ยสีขอบใต้ตาค่ะ ส่วนตัวเองไม่ค่อยแต่งหน้าแบบ smokey eyes นัก ไม่เขียนขอบตาล่าง เลยไม่รู้สึกว่าแปรงอันนี้จะมีประโยชน์นัก แต่ถ้าชอบ smokey eyes look แปรงนี้น่าใช้มากค่ะ
แต่ถ้าอยากตัด must have MAC brushes ลงให้น้อยที่สุด ให้เลือกเลยนะคะ ขอแนะนำดังนี้ (จากล่างขึ้นบน)
150 สำหรับหน้า
239 สำหรับสีตา และ
224 สำหรับเกลี่ยสีตาค่ะ
มีแค่สามแปรงนี้ ก็ถือเป็นอุปกรณ์ทุ่นแรงในการแต่งหน้าและให้ผลลัพธ์ที่ดีทีเดียวค่ะ
กูรูความงามหลายคนมักจะแนะนำ MAC 217 ค่ะ เพราะสามารถแต้มสี เกลี่ยสีได้ในแปรงเดียวกัน แต่โอโม่กลับไม่ได้ใช้มากเท่า 239 ค่ะ ใช้ 224 เกลี่ยสีมากกว่า ทั้งนี้ทั้งนั้นอาจจะขึ้นอยู่กับความชอบส่วนตัวมากกว่า ถ้าจะให้เลือก 3-4 แปรง อาจจะเติม MAC 217 เข้าไปด้วยค่ะ
ตอนแรกกะว่าจะซื้อแปรงของ MAC มาเพิ่มอีก แต่มาค้นพบ affordable MAC quality brushes ของ Sigma Makeup โดยคำแนะนำจากกูรูความงามต่างๆ บน YouTube ก็เลยสั่งซื้อมาลองค่ะ ไว้โอกาสหน้าจะมาเปรียบเทียบให้ฟังระหว่างแปรงของ MAC กับแปรงของ Sigma นะคะ
แปรงขนาดมาตรฐานที่มีอยู่ทั้งหมด 11 อัน มีดังนี้ค่ะ
จากซ้าย MAC 182 (kabuki), 150 (face), 129 (blush), 116 (blush), 187 (duo fibre brush), 224 (blending), 217 (shadow/blending), 239 (shadow), 219 (pencil brush), 208 (eye liner) & 316 (lip brush)
ถ้าจะให้เลือกและแนะนำว่าแปรงอันไหนใช้ดีและเป็น must have โดยเฉพาะถ้าคุณๆ กำลังจะเริ่มซื้อแปรงของ MAC ก็ขอแนะนำตามนี้เลยค่ะ
Face brushes : จากบนลงล่างนะคะ
182 kabuki brush - ทาแป้งใช้ได้ทั้งแป้ง 2 way, แป้งฝุ่น แป้งอัดแข็ง pressed powder หรือ MSF (mineralized skin finish) วิธีใช้คือ จุ่มหรือวนในแป้ง แล้วแปะๆ กลิ้งๆ วนๆ บนหน้า ผลลัพธ์คือหน้าเรียบเนียน ปกปิดดีค่ะ จากประสบการณ์ส่วนตัว แปรงนี้ของ MAC เป็นอะไรที่ unique มากค่ะ ขนแปรง หนา แน่น นุ่ม หาเลียนแบบได้ยากจริงๆ
150 face brush - เป็นแปรงสำหรับปัดแป้งค่ะ ส่วนตัวแล้วแปรงนี้เป็นแปรงสาระพัดประโยชน์ ถ้าให้เลือกได้แค่แปรงเดียวสำหรับหน้าจะเลือกแปรงนี้ค่ะ เพราะปกติ เวลารีบๆ จะใช้แปรงนี้ ปัดแป้งให้ทั่วหน้า ปัด bronzer แล้วตามด้วย blush เป็นอันเสร็จสรรพ วิ่งออกบ้านได้ทันที
187 Duo fibre brush - แรกเริ่มเดิมทีซื้อมาใช้เป็นแปรงสำหรับทารองพื้่นค่ะ จะให้ผลลัพธ์แบบ air brush แต่ตั้งแต่ค้นพบเจ้า beautyblender ก็เลิกใช้แปรงนี้รองพื้นไปเลยค่ะ ตอนหลังใช้ทา blush ที่สีเข้มๆ อย่าง Nars หรือปัดแป้งเบาๆ ให้ทั่วหน้า เป็นอีกแปรงของ Mac ที่หาเลียนแบบยากค่ะ มีความนุ่มและแข็งที่พอดิบพอดี
Eye brushes : จากซ้ายไปขวา
217 blending/eye shadow (es) brush - เหมาะสำหรับ cream shadow หรือ eye primer/base รวมไปถึง es ธรรมดาด้วยค่ะ สาระพัดประโยชน์เพราะนอกจากทาสีตาแล้ว ยังสามารถใช้ blend เกลี่ยสีให้เนียนเข้ากันได้อีก สาวก MAC หลายๆ คนถือว่าเป็นแปรงทาตาที่ต้องมีของ MAC เลยทีเดียวค่ะ
239 es brush - ใช้ทา es ค่ะ สามารถแต้มสีให้ติดทนทาน สีเด่นชัด เกลี่ยง่าย ความหนานุ่มกำลังพอเหมาะในการทาสีเปลือกตัว รวมถึงการทาเบ้าตาโดยเฉพาะหางตาได้ดีอีกด้วยค่ะ
224 blending brush - สำหรับเกลี่ยสีให้เข้ากัน หลายๆ คนไม่ชอบแปรงนี้เพราะติว่าใหญ่ไป แต่สำหรับโอโม่แล้ว ชอบแปรงนี้มากค่ะ บางทีใช้แปรงนี้จุ่มสีน้ำตาลแล้วแค่วนๆ ตรงหางตาเป็นรูปวงกลมก็ทำให้เบ้าตาดูลึก มีมิติได้ แล้วใช้สีที่เหลือติดแปรง เกลี่ยจากหัวคิ้วลงสองข้างของจมูก เป็น shading ให้จมูกดูโด่งขึ้นได้ในทันตาค่ะ อีกอย่างที่ใช้ประจำคือ หลังทาสีตาเสร็จแล้ว ก็ใช้แปรงนี้เปล่าๆ ไม่ต้องจุ่มสีอะไร เกลี่ยสีให้เข้ากันค่ะ
6 แปรงนี้ที่ผ่านมาถือว่าเป็นแปรงแนะนำสำหรับคุณๆ ที่อยากจะลองใช้ MAC brushes หรือหากมีอยู่แล้วอยากเพิ่มเติมเข้าใน collection ค่ะ
ส่วนอีก 5 แปรงที่มี แต่ไม่ถือว่าเป็นแปรงที่ต้องมี แต่ถ้าอยากได้ก็น่าใช้ค่ะ มาดูกันว่ามีแปรงอะไรบ้าง จากซ้ายไปขวานะคะ 129 (blush brush), 116 (small blush brush), 208 (eye liner), 316 (lip brush) & 219 (pencil brush)
มาเริ่มที่สองแปรงแรกก่อนนะคะ 129 & 116 (ซ้ายและขวา)
ทั้งสองแปรงเป็นแปรงปัดแก้มหรือใช้ในการ contour ได้ดีค่ะ ส่วนตัวแล้วคิดว่าเลือกอันใดอันหนึ่งก็พอ แล้วแต่ขนาดแก้มของแต่ละคนค่ะ
อีกสามแปรงที่เหลือจากซ้ายไปขวา 208, 316 & 219
208 - eye liner brush ถ้าชอบเขียนของตา แปรงนี้ใช้ง่ายค่ะ ชินมือกับการใช้แปรงหัวตัดเฉียงนี้มากกว่าตัวตัดแบนค่ะ อันนี้ก็แล้วแต่ความถนัดส่วนบุคคล ที่ออสเตรเลียไม่ได้ฮิตการเขียนขอบตาเหมือนที่เมืองไทยนัก ก็เลยไม่ค่อยได้ใช้บ่อยเท่าไหร่ค่ะ
316 - lip brush แยกส่วนเก็บปิดฝาเป็นขนาดพกพาได้สะดวกค่ะ แต่ปกติก็มักจะเร่งรีบจนไม่มีเวลาทาปากด้วยพู่กันนี้เท่าไหร่ ปกติก็แต้มๆ ลิปสติกลงบนริมฝีปากแล้วใช้นิ้วเกลี่ยๆ มากกว่าค่ะ ^^
219 - pencil brush แปรงนี้ซื้อมาล่าสุด แต่คิดว่าไม่ได้ใช้เท่าไหร่ค่ะ กูรูความงามตามยูทูปแนะนำรวมไปถึง Make up artist ของ MAC เอง แปรงนี้เหมาะแก่การเกลี่ยสีขอบตาให้ดู smokey ฟุ้งๆ บางคนแนะนำให้ใช้ทาบริเวณเบ้าตาให้มีมิติเข้มและเด่นชัดขึ้น หรือใช้เกลี่ยสีขอบใต้ตาค่ะ ส่วนตัวเองไม่ค่อยแต่งหน้าแบบ smokey eyes นัก ไม่เขียนขอบตาล่าง เลยไม่รู้สึกว่าแปรงอันนี้จะมีประโยชน์นัก แต่ถ้าชอบ smokey eyes look แปรงนี้น่าใช้มากค่ะ
แต่ถ้าอยากตัด must have MAC brushes ลงให้น้อยที่สุด ให้เลือกเลยนะคะ ขอแนะนำดังนี้ (จากล่างขึ้นบน)
150 สำหรับหน้า
239 สำหรับสีตา และ
224 สำหรับเกลี่ยสีตาค่ะ
มีแค่สามแปรงนี้ ก็ถือเป็นอุปกรณ์ทุ่นแรงในการแต่งหน้าและให้ผลลัพธ์ที่ดีทีเดียวค่ะ
กูรูความงามหลายคนมักจะแนะนำ MAC 217 ค่ะ เพราะสามารถแต้มสี เกลี่ยสีได้ในแปรงเดียวกัน แต่โอโม่กลับไม่ได้ใช้มากเท่า 239 ค่ะ ใช้ 224 เกลี่ยสีมากกว่า ทั้งนี้ทั้งนั้นอาจจะขึ้นอยู่กับความชอบส่วนตัวมากกว่า ถ้าจะให้เลือก 3-4 แปรง อาจจะเติม MAC 217 เข้าไปด้วยค่ะ
ตอนแรกกะว่าจะซื้อแปรงของ MAC มาเพิ่มอีก แต่มาค้นพบ affordable MAC quality brushes ของ Sigma Makeup โดยคำแนะนำจากกูรูความงามต่างๆ บน YouTube ก็เลยสั่งซื้อมาลองค่ะ ไว้โอกาสหน้าจะมาเปรียบเทียบให้ฟังระหว่างแปรงของ MAC กับแปรงของ Sigma นะคะ
Subscribe to:
Posts (Atom)